ฮาวทูเลือก เก้าอี้สุขภาพ ให้ห่างไกลอาการปวด ฉบับมนุษย์หน้าจอคอม

เคล็ดลับเลือก เก้าอี้สุขภาพ จากอาการปวดส่วนต่าง ๆ ตามร่างกาย

ทุกวันนี้ เก้าอี้สุขภาพ ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงอาการปวดตามร่างกาย โดยมีการปรับรูปร่างของ เก้าอี้สุขภาพ ให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อผู้ใช้งานจึงสามารถนั่งได้ถูกต้องตามหลัก Ergonomic ซึ่ง เก้าอี้สุขภาพ ถูกพัฒนามาให้มีฟังก์ชันตอบสนองต่อร่างกายแต่ละจุดโดยเฉพาะ เพื่อรองรับอาการปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรมที่อาจเกิดขึ้นตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น คอ เอว หลัง เป็นต้น โดยเคล็ดลับการเลือก เก้าอี้สุขภาพ ที่ตอบโจทย์การแก้อาการปวดเฉพาะจุด สามารถเลือกได้ตามอาการเหล่านี้

อาการปวดไหล่ ส่วนมากจะเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออ่านหนังสือเป็นระยะเวลานาน เพราะท่าทางการใช้คอมพิวเตอร์และการอ่านหนังสือจะต้องมีการยกไหล่ตลอดเวลา ส่งผลให้เกิดอาการเกร็งกล้ามเนื้อจนเกิดอาการปวดบริเวณไหล่ตามมา นอจากนี้หลายคนจะ เก้าอี้นั่งกินข้าว มาไว้นั่งทำงานด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เก้าอี้กินข้าวจะไม่มีที่พักแขน ดังนั้นหากต้องเลือกเก้าอี้สำหรับทำงานหรืออ่านหนังสือควรเลือกที่มีที่พักแขน โดยจะต้องสามารถปรับระดับความสูงและองศาให้เหมาะสมกับร่างกายของเราได้ เนื่องจากที่พักแขนจะช่วยกระจายน้ำหนักไปยังบริเวณสะบักและต้นแขน เพื่อรองรับอาการปวดจากการยกไหล่ขึ้นสูงจากการวางแขนที่ไม่พอดีนั่นเอง

อาการปวดคอ ส่วนใหญ่อาการนี้มักจะเกิดจากการก้มจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เกิดอาการตึงกล้ามเนื้อคอ ดังนั้นการเลือก เก้าอี้สุขภาพ จึงต้องมีฟังก์ชันที่รองรับกล้ามเนื้อคอได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น การมีพนักพิงที่สามารถช่วยรองรับศีรษะและน้ำหนักจากคอได้ นอกจากนี้พนักพิงที่ดีควรปรับองศาให้พอเหมาะกับสรีระและพฤติกรรมการทำงานของแต่ละคนได้ด้วย

อาการปวดเอว อาจเกิดจากการนั่งผิดท่า ไม่ว่าจะเป็นการนั่งที่ผิดธรรมชาติหรือการนั่งหลังค่อม ทำให้ส่วนเอวกับพนักพิงหลังของ เก้าอี้สุขภาพ ไม่สัมพันธ์กัน อาการปวดบริเวณเอวจึงเกิดขึ้น ดังนั้นการเลือกเก้าอี้จึงควรมีฟังก์ชันที่ซัพพอร์ตบริเวณเอว Lumbar ซึ่งจะช่วยรองรับบริเวณส่วนเว้าของเอวและหลังได้เป็นอย่างดีตามหลักสรีรศาสตร์

อาการปวดหลัง มักจะเกิดกับวัยทำงานที่เลือกใช้เก้าอี้ไม่เหมาะสมกับสรีระและพฤติกรรม เช่น เก้าอี้ไม้กินข้าว เก้าอี้กินข้าวหมุนได้ เก้าอี้นั่งกินข้าว เป็นต้น ซึ่งเก้าอี้ลักษณะนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการนั่งทำงานโดยเฉพาะ ดังนั้นคนที่มีการปวดหลังจะเกิดจากการนั่งหลังค่อม ทำให้กระดูกสันหลังส่วนล่างรับน้ำหนักมากเกินไป อาการปวดหลังจึงตามมา โดย เก้าอี้สุขภาพ ที่ควรเลือกจะต้องมีพนักพิงช่วงหลัง เพื่อรองรับกระดูกสันหลังไม่ให้เกิดการโค้งงอและน้ำหนักของร่างกายมากจนเกินไป

3 ระบบเทคโนโลยีที่ เก้าอี้สุขภาพ ควรมี เพื่อป้องกันอาการปวด

เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนามาให้ก้าวหน้ามากขึ้น การเลือก เก้าอี้สุขภาพ ที่มีเทคโนโลยีจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะเทคโนโลยีนั้นจะเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาและบรรเทาความเจ็บปวดได้ดียิ่งขึ้นจากการใช้งานเก้าอี้เป็นระยะเวลานาน ปัจจุบันนี้ เก้าอี้สุขภาพ หลาย ๆ แบรนด์จึงถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงสรีระและพฤติกรรมการนั่งเก้าอี้ ซึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ควรมีใน เก้าอี้สุขภาพ คือ

ระบบ Lumbar Protection Support เป็นระบบช่วยรองรับและป้องกันอาการปวดบริเวณเอวและหลังล่าง โดยระบบ Lumbar Protection Support จะทำหน้าที่รองรับส่วนเว้าของเอวและหลังจากพนักพิงเสริมพิเศษ ดังนั้นทุกครั้งที่เลือกเก้าอี้จะต้องมีระบบ Lumbar Protection Support ที่มาพร้อมฟังก์ชันพนักพิงเสริมพิเศษ เพื่อช่วยให้ส่วนเว้าของเอวและหลังตรงกับตำแหน่งของพนักพิงเก้าอี้ได้อย่างพอดี

ระบบ Follow back เป็นระบบใน เก้าอี้สุขภาพ ที่สามารถปรับเก้าอี้ได้ตามรูปแบบการนั่งของผู้ใช้งาน โดยเทคโนโลยีระบบ Follow back จะทำหน้าที่รองรับแผ่นหลังตามท่านั่งที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นองศา รูปแบบการนั่ง หรือตำแหน่งการนั่ง ระบบ Follow back ก็จะช่วยซัพพอร์ตแผ่นหลังของผู้ใช้งาน ด้วยการลดความเสี่ยงอาการปวดหลังที่อาจเกิดขึ้นตามมา หากผู้ใช้งานเก้าอี้มีการนั่งผิด

ระบบ Tilt Lock เป็นระบบล็อคการเอนของพนักพิงเก้าอี้ โดยระบบ Tilt Lock จะช่วยปรับระยะท่านั่งให้พอดีและเหมาะสมกับการนั่งทำงาน เพราะถ้าเก้าอี้มีฟังก์ชันช่วยลดอาการปวดจากออฟฟิศซินโดรม แต่หากผู้ใช้งานยังคงนั่งผิดท่าทางเป็นระยะเวลานาน ก็อาจเกิดอาการปวดออฟฟิศซินโดรมตามมาได้ ดังนั้นเก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรมีระบบล็อคการเอน เพื่อที่จะได้ช่วยให้ท่านั่งอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง และป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานนั่งผิดท่าทางธรรมชาติมากจนเกินไปนั่นเอง

Trick & Tips สำหรับเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพ

กำหนดงบประมาณในการเลือกซื้อ เพื่อที่จะได้ช่วยคัดกรองว่าในงบประมาณที่กำหนดนั้น มีเก้าอี้เพื่อสุขภาพรุ่นไหนบ้างที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่

ความต้องการของผู้ใช้งาน ลองสำรวจดูก่อนว่าผู้ใช้งานต้องการใช้งานเก้าอี้เพื่อสุขภาพในระดับไหนบ้าง เช่น ถ้าหากผู้ใช้งานเป็นคนที่ค่อนข้างมีน้ำหนักตัว อาจจะต้องเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพที่ค่อนข้างแข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูง มีฐานกว้าง และมีล้อเลื่อนเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

ฟังก์ชันหรือเทคโนโลยีพิเศษ เนื่องจากเก้าอี้เพื่อสุขภาพแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ จะมีเทคโนลีและข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพจึงควรมีการออกแบบที่ดีต่อระบบการไหลเวียนต่าง ๆ ในร่างกาย เพื่อให้ผู้ใช้งานเก้าอี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากและไม่เสียสุขภาพในอนาคต

วัสดุของเก้าอี้เพื่อสุขภาพ จะต้องเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่อับชื้อ ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เนื่องจากผู้ใช้งานอาจจะต้องทำงานอยู่บนเก้าอี้เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน

ระยะเวลาอายุการใช้งาน หากจะต้องเลือกเก้าอี้เพื่อสุขภาพสักตัวหนึ่ง ควรเลือกซื้อเก้าอี้ที่มีอายุการใช้งานและการรับประกันที่ยาวนาน เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าหากเก้าอี้ชำรุดจนต้องมีการซ่อมแซม การรับประกันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้

หลายคนมักจะใช้ เก้าอี้นั่งกินข้าว หรือ เก้าอี้ไม้กินข้าว แทนการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภา เพราะคิดว่าสามารถนั่งทำงานได้เหมือนกัน แต่รู้หรือไม่ว่า? ท่าทางการนั่งและระยะเวลาการนั่งส่งผลต่อสรีระและร่างกายของเรา หลายคนมีอาการปวดตามร่างกายและเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม เพียงเพราะเลือกใช้เก้าอี้ทั่ว ๆ ไป หรือไม่เห็นความสำคัญของเก้าอี้เพื่อสุขภาพ ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกคนลองหันมาเลือกใช้เก้าอี้สุขภาพสำหรับทำงานกันดีกว่า