9 โต๊ะกลางรับแขกสุดคูลสำหรับห้อง 9 สไตล์ เลือกให้เข้ากับบ้านได้ไม่ต้องกลัวพลาด

โต๊ะกลางรับแขก 9 แบบที่ไม่ควรพลาด

1. โต๊ะกลางบุผ้าแบบ upholstery

โต๊ะกลางที่เราคุ้นเคยส่วนใหญ่มักมีพื้นผิวที่แข็งและเรียบ ซึ่งทำมาจากวัสดุอย่างไม้ หินอ่อน กระจก หรือพลาสติก แต่โต๊ะกลางแบบ upholstery นั้นต่างออกไปตรงที่มีพื้นผิวด้านบนบุด้วยเบาะผ้า ทำให้มีความนุ่มนิ่มมากกว่า ซึ่งเหมาะมากกับบ้านที่มีเด็กเล็กๆ และแม้โต๊ะกลางแบบนี้จะไม่สามารถวางสิ่งของอย่างแก้วน้ำ หรือแก้วกาแฟได้ แต่ก็มีจุดเด่นตรงที่สามารถใช้เป็นที่พักเท้าหรือที่นั่งเสริมในยามจำเป็นได้

นอกจากนี้ โต๊ะกลางแบบ upholstery ในโทนสีเรียบๆ ก็ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองให้แก่ห้อง ทำให้ห้องแนวมินิมอลที่อาจจะดูแข็งกร้าวและเย็นชามีบรรยากาศที่น่ารักและผ่อนคลายยิ่งขึ้นตามแบบ warm & cozy vibe ซึ่งเป็นเทรนด์ฮิตของการแต่งห้องในยุคนี้

2. โต๊ะกลางสีขาวสไตล์โมเดิร์น

โต๊ะกลางรับแขก ทรงสี่เหลี่ยมสีขาวล้วนที่มีขอบโค้งมนเล็กน้อย เป็นตัวเลือกที่แสนง่ายแต่สุดเริ่ดสำหรับห้องสไตล์โมเดิร์นมินิมอล แถมโต๊ะกลางยังมาพร้อมชั้นวางของตรงกึ่งกลางที่เป็นกระจกใส ทำให้ด้านบนและด้านล่างของโต๊ะมีความสมมาตรกันพอดี จนดูเสมือนเป็นเงาที่สะท้อนบนผิวน้ำ ซึ่งลูกเล่นที่ ‘น้อยแต่มาก’ เช่นนี้ จะช่วยเติมสุนทรียะให้แก่ห้องสุดเรียบของเราไม่ให้จืดชืดและน่าเบื่อเกินไป

อีกหนึ่งทริคในการตกแต่งโต๊ะกลางที่มีสีและรูปแบบเรียบง่ายเช่นนี้ ก็คือการเติมสีเขียวของต้นไม้จริงเข้าไป เพราะสีสันและรูปทรงที่เป็นธรรมชาติของต้นไม้จะดูโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางสีขาวสะอาดตา และช่วยให้ห้องที่ดูเรียบและคลีนมีบรรยากาศที่สดชื่นขึ้นนั่นเอง

3. โต๊ะกลางกลม แบบสาน

โต๊ะกลางที่จักสานจากวัสดุธรรมชาติ เป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นสบายๆ ให้แก่ห้องได้ เนื่องจากผิวสัมผัสที่ไม่เรียบและมีความลื่นไหล ตลอดจนเส้นสายที่โค้งมนของโต๊ะทรงกลม จะช่วยลดความแข็งทื่อดุดัน อีกทั้ง texture จากการจักสานยังกลายเป็นจุดดึงดูดสายตาและช่วยเพิ่มมิติให้แก่พื้นที่ได้

อีกหนึ่งข้อดีของ โต๊ะกลางกลม ที่ทำจากวัสดุจักสาน คือปราศจากขอบเหลี่ยมคมที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเมื่อเดินเฉี่ยวชน โต๊ะกลางสไตล์นี้จึงช่วยให้การสัญจรภายในห้องสะดวกสบาย และค่อนข้างเหมาะกับบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุมากกว่า

4. โต๊ะกลางแบบ Ottoman สุดหรู

พื้นผิวโต๊ะกลางแบบ ottoman มักบุด้วยเบาะนุ่มและวัสดุที่หรูหรา อย่างผ้าไหม ผ้ากำมะหยี่ หรือหนัง ซึ่งช่วยเติมเต็มความสง่างามให้แก่ห้องรับแขกสไตล์ glam & luxury ที่มีกลิ่นอายวินเทจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ โต๊ะกลางแบบ ottoman ส่วนใหญ่ยังมีลักษณะเป็นกล่องที่สามารถเปิดฝาออกเพื่อเก็บของด้านในได้ หรือใช้เป็นเบาะนั่งสำรองได้เช่นเดียวกัน

หากกลัวว่าโต๊ะกลางที่มีเบาะนุ่มนิ่มด้านบนจะกลายเป็นอุปสรรคในการวางสิ่งของ เราอาจลองหาถาดสักใบมาวางซ้อนด้านล่างแก้วน้ำ จานขนม หรือแม้แต่ของตกแต่งอย่างกระถางและแจกัน ซึ่งนอกจากถาดจะช่วยให้เราวางสิ่งของได้มั่นคงขึ้นแล้ว ยังทำให้การตกแต่งโต๊ะกลางของเราเป็นสัดเป็นส่วนและดูสบายตาขึ้นด้วย

5. โต๊ะกลางสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำ

ไม่มีเฟอร์นิเจอร์สุดคูลชิ้นไหนจะเหมาะกับบ้านทุกสไตล์มากไปกว่าโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำล้วน ที่มีดีไซน์สุด sleek แบบนี้อีกแล้ว ด้วยเส้นสายและขอบมุมที่โปร่งสะอาดตา และตัวถาดกับขาโต๊ะที่เล็กเรียวเพรียวบาง ความเรียบง่ายธรรมดาที่ดูเหมือนไม่โดดเด่นนี้ กลับกลายเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสายตาและทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น โต๊ะกลางที่มีดีไซน์สงบสุขุมแต่มีความเท่ในตัวชิ้นนี้ เหมาะกับทั้งการวางในห้องสไตล์โมเดิร์นจัดๆ ไปจนถึงการวางบนผืนพรมที่มีลวดลายแปลกตา ในห้องสไตล์ผสมผสานที่มีกลิ่นอายแบบ mid-century

6. โต๊ะกลางไม้ทรงสามเหลี่ยม

ถ้ากลัวว่าห้องสไตล์โมเดิร์นจะดูจำเจน่าเบื่อ ก็สามารถเพิ่มจุดเด่นให้เป็นที่น่าจดจำได้ ด้วยโต๊ะกลางไม้รูปทรงสามเหลี่ยมที่มีขอบโค้งมน ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับลวดลายไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นตามธรรมชาติ ก็จะช่วยให้มุมพักผ่อนที่แสนธรรมดาดูเด่นสะดุดตาขึ้นมา ในแบบที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป

สำหรับ โต๊ะกลางรับแขก ที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมอยู่แล้วแบบนี้ เราอาจเลือกวางของตกแต่งชิ้นใหญ่เพียงชิ้นเดียวไว้ที่ด้านใดด้านหนึ่งของโต๊ะ และเว้นพื้นที่ส่วนใหญ่ให้ว่างไว้ เพื่อให้รูปลักษณ์และลวดลายไม้ของโต๊ะดูเด่นชัดขึ้นมาตั้งแต่แรกเห็น

7. โต๊ะกลางลายหินอ่อน เพรียวบาง

เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหินอ่อนมักให้ภาพแทนของความเลอค่าสง่างาม แต่เราก็สามารถตัดความหรูหราที่รู้สึกว่ามากเกินไปได้ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและโฉบเฉี่ยว อย่างเช่น โต๊ะกลางลายหินอ่อน ทรงกลม ที่ท็อปโต๊ะทำจากหินอ่อนสีขาวที่มีความบางเฉียบ ส่วนขาโต๊ะเป็นโลหะสีเงินเฉดเดียวกับลวดลายหินอ่อน ที่มีขนาดเล็กและเรียวบาง ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ดูคลีนสบายตา แต่แฝงบรรยากาศหรูหราไว้อย่างเงียบๆ จึงเป็นรูปลักษณ์ที่เหมาะกับสไตล์การแต่งบ้านสมัยใหม่ ที่แม้จะคีพความมินิมอลไว้ แต่ก็ไม่ยอมให้สเน่ห์จากความสง่างามถูกกลืนกิน

8. โต๊ะกลางทรงใบไม้แบบ Nesting

โต๊ะกลางแบบซ้อนหรือ Nesting table เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากตัวโต๊ะที่ซ้อนกันอยู่นั้นสามารถเลื่อนเข้าหรือออกจากกันเพื่อปรับขนาดพื้นที่ใช้สอยได้ อีกทั้งระดับของพื้นผิวโต๊ะที่ลดหลั่นกันก็ยังช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องด้วย สำหรับโต๊ะกลางตัวนี้ ยังมีความพิเศษอีกอย่างตรงรูปทรงที่เรียวยาวคล้ายกับใบไม้ ซึ่งเส้นขอบที่โค้งมนละมุนตานั้นชวนให้สัมผัสถึงความผ่อนคลาย แถมยังประหยัดเนื้อที่ในการจัดวางมากกว่าโต๊ะกลางรูปทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสด้วย นอกจากนี้ ด้วยรูปทรงโต๊ะกับวัสดุเป็นไม้ที่ให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น โต๊ะกลางรูปแบบนี้จึงเหมาะกับบ้านสไตล์ Japanese modern หรือ Japandi อย่างมาก

9. โต๊ะกลางสี่เหลี่ยมกรุกระจก

เติมสัมผัสที่หรูหราให้แก่ห้องได้ โดยไม่ต้องอาศัยดีไซน์ที่ใหญ่ เยอะ และเทอะทะ ด้วยโต๊ะกลางโซฟากรุกระจกตัวเพรียวบาง ที่มาในทรงสี่เหลี่ยมซึ่งดูโฉบเฉี่ยว โปร่งเบา สบายตา แม้ขาโต๊ะโลหะสีทองจะให้กลิ่นอายแบบวินเทจ แต่ก็เป็นความเก่าที่คลาสสิคและไม่เชยล้าสมัย อีกทั้งดีไซน์พื้นกระจก 2 ชั้นที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของแล้ว ก็ยังช่วยสะท้อนแสงไฟทำให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งและสว่างไสวยิ่งขึ้นด้วย โต๊ะกลางรับแขก รูปแบบนี้จึงเหมาะกับการตกแต่งในสไตล์ผสมผสาน ระหว่างความคลาสสิคสง่างามและความทันสมัย ซึ่งมีทั้งความแกลมและความชิคอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

เราคงได้เห็นกันไปแล้วว่า โต๊ะกลางรับแขก 9 แบบ 9 สไตล์นั้นมีแบบไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกลางกลม โต๊ะกลางแบบ nesting โต๊ะกลางไม้ หรือ โต๊ะกลางลายหินอ่อน ซึ่งล้วนแต่ก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ใครที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านเก๋ๆ ก็ลองใช้ไอเดียที่เราหยิบยกมาเลือกโต๊ะกลางสวยๆ ที่เหมาะกับสไตล์การแต่งบ้านของเราได้เลย