เมื่อพูดถึงโคมไฟมันก็จะมีหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟเพดาน โคมไฟติดผนัง แต่เมื่อพูดถึงโคมไฟที่นิยมกัน โคมไฟเพดาน ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น เพราะหลายบ้านก็จะมีโคมไฟประเภทนี้ติดดอยู่บนเพดานบ้าน เพราะนอกจากมันจะช่วยประดับประดาบ้านให้สวยงามโดดเด่นขึ้นแล้ว โคมไฟเพดาน ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับบ้านหรือที่พักอาศัยของคุณอีกด้วย

มารู้จักโคมไฟเพดานในรูปแบบต่าง ๆ กัน

อย่างที่หลายคนคุ้นเคยกันว่า โคมไฟเพดาน ก็คือโคมไฟที่ติดอยู่บนเพดาน แต่ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่ามันมีหลายแบบหลายรูปทรงให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบที่ฝังติดกับเพดาน แบบที่ติดกับเพดาน โคมไฟแบบห้อย ฯลฯ แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออก เราจะมาย้ำกันว่าโคมไฟเพดานมีแบบไหนบ้าง

โคมไฟเพดานแบบระย้า หรือแชนเดอเลียร์

เป็นโคมไฟที่หลายคนคุ้นเคยกันว่ามัลักษณะสวยงาม โคมไฟแบบระย้าจะมีจุดเด่น เรื่องความวิบวับและเป็นประกาย มีรูปทรงที่หลากหลาย ทั้งโคมไฟระย้าแบบคริสตัลที่ดูหรูหรา แบบที่มีโครงเหล็ก สำหรับขนาดของโคมไฟเพดาแบบนี้นั้นไม่ควรใหญ่โตจนเกินไป

โคมไฟเพดานแบบห้อยจากเพดาน

โคมไฟลักษณะนี้จะเน้นความเรียบง่าย ดูโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย เป็นโคมไฟที่ติดกับเพดานไปเลย ส่วนที่เป็นหลอดไฟให้แสงสว่างก็จะห้อยลงมา จุดด่นของมันคือคือสามารถหลอกตา ส่งเสริมให้เพดานของห้องโถงดูสูงขึ้น โคมไฟเพดาน ชนิดนี้ส่วนใหญ่มีน้ำหนักเบา สามารถยึดติดกับฝ้าเพดานได้โดยไม่ต้องเจาะฝ้า อาจติดเพื่อให้แสงสว่างหลัก หรือเน้นเฉพาะจุดเพื่อความสวยงามก็ได้ ซึ่งความกะทัดรัดของโคมไฟนี้คอนโดที่มีพื้นที่จำกัดก็เริ่มนิยมใช้กัน

โคมไฟเพดานแบบฝังฝ้า หรือโคมไฟดาวน์ไลท์ (downlight)

โคมไฟเพดานแบบฝังฝ้านี้ เป็นโคมไฟที่นิยมใช้มากที่สุด เพราะใช้งานง่าย สามารถใช้ได้กับทุกห้อง ให้แสงสว่างได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมากนัก ซึ่งลักษณะของโคมไฟแบบนี้จะดูเรียบ ถ้าต้องการเพิ่มลูกเล่นให้การประดับห้องก็มักจะใช้โคมไฟประเภทอื่นร่วมกันไปด้วย

โคมไฟเพดานแบบโคมซาลาเปา หรือ โคม 32w. เป็นโคมไฟอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่สูงมาก ติดตั้งง่ายไม่ต้องทำการเจาะผนัง มีรูปแบบและลวดลายหลากหลาย นิยมติดตั้งในห้องนอน เพราะให้แสงนุ่มนวล ไม่แยงตา หรือห้องตามคออนโด อพาร์ทเมนท์ที่ไม่ได้มีพื้นที่ให้ตกแต่งมาก เน้นความเรียบง่ายและเน้นประโยชน์ต่อการใช้งานเป็นหลัก คนส่วนใหญ่ก็จะนิยมใช้โคมไฟประเภทนี้

เลือกโคมไฟเพดานทั้งที ต้องมีหลักการเลือกอย่างไรบ้าง

ก่อนที่จะคำนึงถึงความสวยงาม ลูกเล่นในการประดับบ้านต่าง ๆ จะต้องคิดถึงอยู่เสมอว่า โคมไฟ รวมไปถึงหลอดไฟ เป็นอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างแก่บ้าน เพราะฉะนั้นในการเลือกจะต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของห้องนั้นด้วยว่าเป็นห้องอะไร ใช้ทำอะไร เช่น ห้องรับประทานอาหาร อาจต้องเลอือกโคมไฟที่อลังการหน่อยหากรับแขกมาทานอาหารสม่ำเสมอ หรือห้องนอนก็เลือกโคมไฟที่เน้นให้แสงละมุน เท่ากับว่าหลักใหญ่ใจความในการเลือกโคมไฟเพดาน ก็จะต้องคำนึงถึงการเลือกโคมไฟตามหลักการทั่วไป ดังนี้

พื้นที่ในการติดโคมไฟ มีขนาดเท่าไร?

สามารถใช้โคมไฟได้เล็ก ใหญ่แค่ไหน แบบอลังการหรือแบบเรียบง่าย ถ้าพื้นที่กว้าง เพดานสูง ก็อาจจะเลือกโคมไฟเพดานแบบแชนเดอเลียร์ได้ แต่ถ้าห้องมีพื้นที่จำกัด ก็อาจเลือกโคมไฟเพดานแบบฝังฝ้า หรือโคมไฟดาวน์ไลท์ (downlight) ก็ได้เช่นกัน

รูปแบบของโคมไฟ

ให้เลือกที่ชอบ และเหมาะสมกับห้องไม่ว่าจะเป็นแบบ Ambient Light เป็นไฟที่ให้แสงสว่างพื้นที่โดยรวมของห้องนั้น ๆ เช่น ไฟซาลาเปา ไฟแขวนกลางห้อง Accent Light หรือไฟส่องเน้น ช่วยส่งเสริมความสวยงามของพื้นที่ให้เป็นจุดสนใจ เช่น ไฟส่องภาพแขวนผนังหรืองานศิลปะ Task Light หรือไฟเฉพาะจุด เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะ ไฟแขวนเหนือโต๊ะกินข้าว ไฟหัวเตียง และ Concealed Light หรือไฟหลืบ เป็นไฟที่ติดตั้งในตำแหน่งที่เราไม่สามารถมองเห็นหลอดไฟ เห็นเพียงแต่แสงสว่างเท่านั้น เช่น ไฟหลืบในผนัง ไฟใต้ตู้ในครัว

เลือกแสงสว่างที่เหมาะสม

ไม่ว่าจะเป็นแบบแสง Warm White แสงโทนสีแดงอมส้ม นิยมใช้สร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลาย นิยมใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอนให้ความรู้สึกนุ่มนวล อบอุ่น ชวนพักผ่อน แสง Cool White แสงโทนสีขาวอยู่ระหว่างแสง Daylight กับแสง Warm White มักใช้กับห้องที่ต้องการความสดใส เช่น ห้องทำงาน หรือแสง Daylight แสงโทนสีขาวอมฟ้า มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ใช้กับบริเวณที่ต้องการเห็นรายละเอียดชัดเจน เช่น โต๊ะแต่งหน้า โต๊ะทำงานฝีมือ

สำหรับโคมไฟเพดานในแต่ละชนิดก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องดูก่อนเลือกซื้อนิดหน่อย เช่น โคมไฟเพดานแบบระย้า หรือแชนเดอเลียร์ จะผลิตจากหลายวัสดุ อาทิ แก้ว นิเกิล ทองแดง กระจกสเตนกลาส เป็นต้น แต่แชนเดอเลียร์ส่วนใหญ่จะทำจากเหล็ก ทองแดง คริสตัล หรือกระจก เท่านั้น

เลยทำให้มีน้ำหนักมากกว่าโคมไฟแขวน ส่วนราคาของโคมไฟแขวนก็มีให้เลือกหลายระดับ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งค่อนข้างถูกกว่าแชนเดอเลียร์ ที่มีขนาดใหญ่กว่าและใช้วัสดุในการผลิตที่แพงกว่า ส่วนขนาดของโคมไฟระย้าไม่ควรจะเน้นที่ความใหญ่โต แต่ต้องพอดีกับขนาดของห้อง และนอกจากเรื่องขนาดแล้ว ความสูงของแชนเดอเลียร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ให้เราทำการปรับความสูงของด้านล่างแชนเดอเลียร์ให้ห่างจากพื้นห้องต่าง ๆ ประมาณ 7 ฟุต จะกำลังดี ส่วนโคมไฟเพดานแบบห้อยจากเพดาน หากใช้กับห้องที่มีขนาดเล็ก ควรจะใช้โคมไฟแบบเดี่ยว และถ้ามีขนาดยาวแล้วละก็ กลุ่มก้อนของโคมไฟที่ห้อยร้อยเรียงกันก็จะทำให้ห้องโถงดูน่าสนใจมากขึ้น

โคมไฟเพดาน เป็นโคมไฟที่ได้รับความนิยมเพราะมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย รวมไปถึงความหลากหลายทั้งด้านราคาและดีไซน์ ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อโคมไฟเพดานก็จะต้องดูความเหมาะสมในการใช้งานด้วย เพื่อที่ว่าโคมไฟที่ได้มาจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากกว่าที่จะมาติดโชว์เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว มันจะได้คุ้มค่ามากขึ้นไปอีก