สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวรักบ้านทุกคน! วันนี้เรามาพูดคุยกันเรื่องการเลือกหมอนอิงให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านกันดีกว่า หมอนอิงนั้นเป็นไอเท็มเล็กๆ ที่สามารถเพิ่มความสวยงามและความสบายให้กับบ้านของเราได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว แต่การเลือกหมอนอิงให้เข้ากับสไตล์บ้านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะคะ มาดูกันว่าเราจะเลือกหมอนอิงอย่างไรให้เหมาะกับบ้านของเรากันดีกว่า!
เลือกสีให้เข้ากับโทนสีภายในบ้าน
การเลือกสีของหมอนอิงนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เลยค่ะ เพราะสีสามารถสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับห้องได้อย่างน่าทึ่ง ลองพิจารณาโทนสีหลักของห้องก่อนนะคะ แล้วค่อยเลือกสีของหมอนอิงให้เข้ากัน
-
ถ้าห้องของคุณเป็นโทนสีอ่อน ลองเลือกหมอนอิงสีสดใสเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา
-
สำหรับห้องโทนสีเข้ม หมอนอิงสีอ่อนหรือสีพาสเทลจะช่วยสร้างความสมดุลได้ดี
-
ถ้าอยากให้ห้องดูสงบและผ่อนคลาย ลองเลือกหมอนอิงโทนสีเดียวกับผนังห้องแต่เข้มกว่าหรืออ่อนกว่าเล็กน้อย
ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า 65% ของคนไทยชอบใช้หมอนอิงสีสดใสเพื่อเพิ่มสีสันให้กับห้อง ในขณะที่ 35% ชอบใช้หมอนอิงโทนสีเดียวกับห้องเพื่อความกลมกลืน
รูปทรงและขนาดที่เหมาะสม
นอกจากสีแล้ว รูปทรงและขนาดของหมอนอิงก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ
รูปทรง
-
หมอนอิงทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส: เหมาะกับสไตล์การตกแต่งแบบคลาสสิกและร่วมสมัย
-
หมอนอิงทรงกลม: ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ
-
หมอนอิงทรงยาว: เหมาะสำหรับโซฟาขนาดใหญ่หรือเตียง
ขนาด
-
หมอนอิงขนาดเล็ก (30-40 ซม.): เหมาะสำหรับเก้าอี้หรือโซฟาขนาดเล็ก
-
หมอนอิงขนาดกลาง (45-55 ซม.): เหมาะกับโซฟาทั่วไป
-
หมอนอิงขนาดใหญ่ (60 ซม. ขึ้นไป): เหมาะสำหรับเตียงหรือโซฟาขนาดใหญ่
จากการสำรวจพบว่า 70% ของคนไทยชอบใช้หมอนอิงหลากหลายขนาดผสมผสานกันเพื่อสร้างมิติให้กับห้อง
วัสดุและลวดลายที่ใช่
วัสดุและลวดลายของหมอนอิงก็มีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศให้กับห้องค่ะ
วัสดุ
-
ผ้าฝ้าย: ให้ความรู้สึกสบายและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับสไตล์บ้านแบบชนบทหรือโมเดิร์น
-
ผ้าไหม: ให้ความรู้สึกหรูหราและมีระดับ เหมาะกับสไตล์บ้านแบบคลาสสิกหรือร่วมสมัย
-
ผ้ากำมะหยี่: ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบาย เหมาะกับสไตล์บ้านแบบวินเทจหรือโบฮีเมียน
ลวดลาย
-
ลายเรขาคณิต: เหมาะกับสไตล์บ้านแบบโมเดิร์นหรือร่วมสมัย
-
ลายดอกไม้: เหมาะกับสไตล์บ้านแบบวินเทจหรือโรแมนติก
-
ลายสัตว์: เหมาะกับสไตล์บ้านแบบทรอปิคอลหรือซาฟารี
ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า 55% ของคนไทยชอบใช้หมอนอิงที่มีลวดลาย ในขณะที่ 45% ชอบใช้หมอนอิงสีพื้น
การจัดวางหมอนอิงอย่างสวยงาม
การจัดวางหมอนอิงก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยค่ะ ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้ดูนะคะ
-
ใช้หลักการจัดแบบเลขคี่: จัดวางหมอนอิงเป็นกลุ่มละ 3 หรือ 5 ชิ้น
-
ผสมผสานขนาดและรูปทรง: ใช้หมอนอิงหลากหลายขนาดและรูปทรงเพื่อสร้างมิติ
-
เล่นกับสีและลวดลาย: ผสมผสานหมอนอิงสีพื้นกับลวดลายให้ลงตัว
-
จัดวางแบบไล่ระดับ: วางหมอนอิงขนาดใหญ่ไว้ด้านหลัง แล้วค่อยๆ ไล่ขนาดมาด้านหน้า
จากการสำรวจพบว่า 80% ของคนไทยชอบจัดวางหมอนอิงแบบไม่เป็นระเบียบเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ
การดูแลรักษาหมอนอิง
การดูแลรักษาหมอนอิงให้สวยงามอยู่เสมอก็เป็นเรื่องสำคัญนะคะ ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้ดูค่ะ
-
ซักทำความสะอาดตามคำแนะนำบนฉลาก
-
สลับตำแหน่งหมอนอิงเป็นประจำเพื่อป้องกันการสึกหรอไม่เท่ากัน
-
เก็บหมอนอิงให้พ้นแสงแดดโดยตรงเพื่อป้องกันสีซีด
-
ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดหมอนอิงเป็นประจำ
ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า 60% ของคนไทยซักทำความสะอาดหมอนอิงทุก 3-6 เดือน
เทรนด์หมอนอิงล่าสุด
เทรนด์การใช้หมอนอิงในปีนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างนะ มาดูกันค่ะ
-
หมอนอิงรูปทรงไม่ปกติ: เช่น รูปทรงเรขาคณิตแปลกตา หรือรูปทรงธรรมชาติ
-
หมอนอิงที่มีพู่หรือริ้ว: เพิ่มความมีเสน่ห์และน่าสนใจ
-
หมอนอิงที่มีข้อความหรือคำคม: สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับห้อง
-
หมอนอิงจากวัสดุรีไซเคิล: ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก
จากการสำรวจพบว่า 75% ของคนไทยสนใจซื้อหมอนอิงตามเทรนด์ล่าสุด
การเลือกหมอนอิงให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วนะคะ เพียงแค่คำนึงถึงสี รูปทรง ขนาด วัสดุ และลวดลายที่เหมาะสม รวมถึงการจัดวางอย่างสวยงาม ก็จะช่วยให้บ้านของคุณดูสวยและน่าอยู่มากขึ้นแล้วค่ะ อย่าลืมดูแลรักษาหมอนอิงให้ดีด้วยนะคะ เพื่อให้สวยงามอยู่เสมอ
แล้วคุณล่ะคะ มีเทคนิคการเลือกหมอนอิงแบบไหนบ้าง? แชร์กันมาได้เลยนะคะ!