จุดไอเดียเฟอร์นิเจอร์ห้องทำงานให้น่าอยู่

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า งานคือสิ่งสำคัญในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชีวิตยุคปัจจุบันที่หลายคนต้องเอางานมาทำกันที่บ้าน ตามนโยบาย work from home ทำให้งานยิ่งเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของเรา แบบที่เรียกว่า 360 องศาเลยก็ว่าได้ เพราะจะหันไปทางไหน ก็เหมือนจะเห็นแต่ “พื้นที่ทำงาน”

ในเมื่อพื้นที่ทำงานเป็นสิ่งจำเป็นภายในบ้าน เราจึงต้องให้ความสำคัญ ไม่ควรมองข้ามองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งไป เพื่อให้ได้มุมทำงานที่ดี และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าหากเราจัดสรรเฟอร์นิเจอร์ได้ถูกต้องอาจทำให้สุขภาพในการทำงานดีขึ้น และผ่อนคลายไปด้วยได้

แต่ละคนก็มีเวิร์คสไตล์ที่ต่างกัน การตกแต่งห้องทำงาน ก็อาจจะออกมาในสไตล์ที่ต่างกันด้วย แต่โดยทั่วไปแล้ว ห้องทำงานที่ดี จะมีองค์ประกอบหลักที่คล้ายๆ กัน คือ ควรตกแต่งด้วยโทนสีหลักที่ดูผ่อนคลาย อย่างโทนสีขาว สีเทา หรือสีเบจ นอกจากนี้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่เหมาะสม ก็มีส่วนช่วยได้มากเช่นกัน

การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องทำงาน

โต๊ะทำงาน

โต๊ะทำงาน เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญที่สุดในห้องนี้ โต๊ะทำงานที่ดี ควรมีความสูงประมาณ 0.75 เมตร ส่วนความกว้างและความยาว ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบการทำงานของแต่ละคน โดยอาจเป็นโต๊ะลอยตัว หรือบิลท์อินก็ได้ ซึ่งจำเป็นต้องเผื่อระยะห่าง สำหรับใช้งานให้เหมาะสมด้วย นอกจากนี้ ใต้โต๊ะก็ควรต้องมีพื้นให้ยืดขาได้พอสมควร เพราะท่านั่งที่ดีและสบาย เป็นเรื่องสำคัญมากในการทำงาน

เก้าอี้นั่งทำงาน

เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเก้าอี้ควรเลือกแบบที่ผู้ใช้งานรู้สึกว่านั่งแล้วสบายที่สุด และควรมีพนักพิง เพื่อให้กระดูกสันหลัง ไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป ความห่างที่เหมาะสมระหว่างเก้าอี้กับโต๊ะ ควรมีระยะประมาณ 1 ฟุต เพื่อสามารถขยับแข้งขยับขาได้สะดวก แนะนำเก้าอี้ทำงาน Marvin สีน้ำตาลและดำ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนั่งทำงานได้สบาย

ตู้หรือชั้นวางอุปกรณ์

หนังสือ สมุด แฟ้มงาน และเครื่องใช้ต่างๆ ในการทำงาน ไม่ควรถูกวางทิ้งไว้ระเกะระกะ เพื่อให้สามารรถหยิบใช้ได้ง่าย และป้องกันงานชิ้นสำคัญสูญหาย สมควรมีที่เก็บอย่างเป็นระเบียบ โดยอาจเป็นตู้เก็บ หรือชั้นวางของเพื่อความเรียบร้อยสวยงาม ที่สำคัญห้องทำงานที่ดูสบายตาไม่ยุ่งเหยิง ยังช่วยลดความหงุดหงิดในการทำงานได้มากอีกด้วย ขอแนะนำชั้นวางของและวางหนังสือ Eulalia Bookcase เพื่อการจัดระเบียบห้องทำงานอย่างมืออาชีพค่ะ

อุปกรณ์ให้แสงสว่าง

แสงสว่าง เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ในห้องทำงาน เพราะเราต้องใช้สายตาในการอ่านเอกสาร และมองจอคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความละเอียดมาก หากได้แสงสว่างแบบแสงธรรมชาติ (Day light) ก็จะช่วยได้มาก เพราะจะทำให้ห้องดูสว่าง ทั้งยังประหยัดค่าไฟ

แต่ก็ต้องจัดวางโต๊ะที่นั่งทำงานให้สัมพันธ์กับทิศทางของแสงด้วย อย่างไรก็ตาม แสงธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ย่อมไม่เพียงพอต่อการทำงานอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานในช่วงเวลากลางคืนด้วย จึงควรติดหลอดไฟ ที่มีแสงออกเป็นสีขาว เพราะจะเหมาะกับการทำงานมากที่สุด แนะนำโคมไฟติดเพดาน Hengele Ring Ceiling 44 และ โคมไฟตั้งโต๊ะ Avenue Table Lamp White  เพื่อความสว่างของห้องทำงาน

        
พรอพคลายเครียด

แน่นอนว่า เมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ในพื้นที่จำกัด ก็ย่อมต้องมีช่วงเวลาให้รู้สึกเครียดได้บ้างเป็นธรรมดา การมีพรอพไว้ช่วยคลายเคลียด ก็เป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก ซึ่งอาจเป็นของตกแต่งชิ้นเล็กๆ เก๋ๆ วางไว้บนโต๊ะทำงาน หรือมุมใดมุมหนึ่งของห้องก็ได้ ที่สามารถมองเห็นได้ง่าย แนะนำพรอพอารมณ์ดีอย่าง โมเดลมนุษย์ดำเป่าลูกโป่ง Spit Bubbles black ที่มองเมื่อไหร่ ต้องอมยิ้ม และรู้สึกผ่อนคลายในทันที

ของตกแต่งสีสันสนุกสนาน

หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า สีสันสดใส สามารถกระตุ้นไฟในการทำงานได้ ซึ่งการเลือกใช้ของตกแต่งสีสดๆ นับเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลมาก โดยอาจใช้วิธีทาสีของผนังห้องทำงาน ด้านใดด้านหนึ่งให้เป็นสีสด แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบวิธีนี้  อาจใช้ตัวช่วยเป็นของตกแต่งแทน เช่น จัดแจกันดอกไม้หลากสีมาวางไว้บนโต๊ะ ใช้นาฬิกาตั้งโต๊ะสีสดใส หรือใช้ภาพงานศิลปะตกแต่งผนังห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเช่นกัน แนะนำรูปภาพ Art Dav และ Art Noa ที่จะช่วยปลุกไฟการทำงาน และความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดีค่ะ

มองเห็นสวนสวยสบายตา

เมื่อต้องใช้สายตานานๆ สีเขียวของต้นไม้เป็นสิ่งที่จะช่วยผ่อนคลายจากความล้าได้มากที่สุด ดังนั้น จะเป็นการดีมาก หากห้องทำงาน มีมุมที่สามารถมองออกมา แล้วเห็นวิวทิวทัศน์ของสวนสวย และบรรยากาศภายนอกได้ เพื่อให้สีเขียวของธรรมชาติเป็นตัวเพิ่มพลังงานดีๆ ให้สามารถกลับมาทำงานต่อได้ดี แต่หากหามุมสีเขียวจากนอกบ้านไม่ได้จริงๆ ก็อาจใช้วิธี นำกระถางต้นไม้เล็กๆ มาตั้งในห้องทำงานแทน ก็ช่วยได้เช่นกัน

เห็นด้วยใช่ไหมล่ะคะ ว่าการจัดห้องทำงานสวยๆ เฟอร์นิเจอร์และตกแต่งด้วยองค์ประกอบดีๆ ช่วยให้ทำงานอย่างมีความสุขขึ้นได้  เมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้าน ก็ไม่ต้องเครียดหรือกังวล ว่าจะทำงานไม่ได้ หรือได้งานออกมาไม่ดีเหมือนอยู่ที่ออฟฟิศ ใครที่มีปัญหาทำงานที่บ้านแล้วไมค่อยเวิร์ค ลองปรับห้องทำงานใหม่ ตามที่แนะนำดูนะคะ มั่นใจว่า จะสามารถช่วยให้ทำงานได้สนุกขึ้น สบายขึ้น และได้งานมากขึ้นอย่างแน่นอน