ถ้าเปรียบการแต่งบ้านกับการแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องเรือนก็เหมือนเสื้อผ้าที่เราขาดไม่ได้ ต้องสวมใส่ทุกวัน ส่วนของแต่งบ้าน แสงสว่างอย่างโคมไฟก็เป็นเหมือนอัญมณีเครื่องประดับ ที่จะช่วยส่งเสริมราศีให้กับผู้สวมใส่ สำหรับการแต่งบ้านก็เช่นกัน การเลือกของตกแต่งอย่างเช่นโคมไฟ เพื่อให้เกิดแสงสว่างในบ้านนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนละเลย เพราะมัวแต่ไปพะวงกับเฟอร์นิเจอร์หลักจนละเลยไป แต่รู้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟเพดาน โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ ถ้าใช้ผิดประเภทหรือมีความเชื่อผิด ๆ ก็สามารถทำให้การแต่งบ้านของคุณพังไม่เป็นท่าได้
1. จัดแสงจ้าไป นี่บ้านนะไม่ใช่ห้องประชุม
การจัดแสงเหนือศีรษะจ้าจนเกินไปไม่เป็นผลดีต่อบ้านของคุณ นอกจากจะทำให้สายตาทำงานหนักโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังเป็นการสิ้นเปลืองอีกด้วย และบ้านก็จะดูแห้งแล้งไร้มิติ แหล่งกำเนิดแสงที่หลากหลายทำให้พื้นที่ส่วนกลางของคุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แสงเหนือศีรษะจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อที่บ้านมีการรวมญาติ จัดปาร์ตี้สังสรรค์กัน แต่เราก็ไม่ได้ใช้งานในแบบนั้นเสมอไป บางครั้งเราก็ต้องการเพียงโคมไฟตั้งพื้นหรือโคมไฟตั้งโต๊ะไว้อ่านหนังสือบนโซฟาหรือเขียนหนังสือที่โต๊ะทำงาน ดังนั้นในการใช้แสงเหนือศีรษะในบ้านจึงควรจัดแต่พอดี และเพิ่มโคมไฟเพดาน โคมไฟตั้งพื้นหรือโคมไฟตั้งโต๊ะเพื่อเน้นไฟที่ใช้งานเฉพาะจุดเพราะไอเทมเหล่านี้ สามารถเพิ่มองค์ประกอบการออกแบบที่หรูหราในห้อง
2. ละเลยการเลือกโคมไฟแบบปรับความสว่างได้
นักออกแบบหลายคนมองว่าความผิดพลาดนี้เหมือนเราลืมป้อนอาหารสัตว์เลี้ยงเลยทีเดียว เพราะไฟคือตัวสร้างบรรยากาศทุกอย่างในบ้าน การทำโคมไฟปรับระดับความสว่างได้เป็นความลับที่ดีที่สุดในการออกแบบแสงสว่าง ดังนั้นจึงต้องใช้ประโยชน์จากข้อนี้ด้วยการติดตั้งโคมไฟแบบมีสวิตช์ปรับความสว่างได้ เวลาต้องการผ่อนคลายจะได้หรี่ไฟให้แสงนุ่มนวล ในขณะที่หากต้องการอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แสง จะได้เร่งความสว่างได้ง่าย ๆ ภายในไม่กี่วินาที
3. วางโคมไฟในที่จะทำให้เกิดเงาและแสงตกกระทบ
วางแสงในจุดที่ไม่ถูกต้อง เป็นการสร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหา เพราะเงาตกกระทบนั้นนอกจากจะทำให้บ้านดูมืดมนไม่มีมิติแล้ว ยังรบกวนสายตาทำให้ต้องใช้งานสายตาหนักขึ้น ปวดตามากขึ้นไปอีก เช่น แสงเหนือศีรษะสามารถทำให้เกิดเงาบนใบหน้าหากคุณต้องใช้แสงเหนือศีรษะให้เลือกโคมไฟตั้งโต๊ะหรือโคมไฟเพดานแนวนอนที่ยาวกว่า (แทนที่จะเป็นหลอดไฟเดียว) เพื่อช่วยส่องสว่างใบหน้าของคุณอย่างเต็มที่ หรืออย่างในห้องครัวก็สามารถแก้ไขปัญหานี้โดยการติดตั้งไฟส่องสว่างใต้ตู้
4. เลือกขนาดโคมไฟผิดคิดจนตัวตาย
นี่เป็นความผิดพลาดทั่วไปที่เจ้าของบ้านหลายคนทำ เพราะหลายคนเน้นเลือกจากความสวย ความชอบ ความถูกใจจนละเลยเรื่องของสัดส่วนไป เช่น เลือกโคมไฟเพดานระย้าขนาดเล็กเกินไปบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่หรือเลือกโคมไฟเพดานระย้าขนาดใหญ่บนโต๊ะข้างโซฟาจะทำให้พื้นที่ดูไม่สมส่วน
การเลือกโคมไฟเพดานระย้าขนาดที่เหมาะสม ต้องคำนวณเพิ่มความสูงและความกว้างของห้อง ควรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณของโคมไฟเพดานระย้าของคุณ ในห้องรับประทานอาหารควรเลือกโคมไฟเพดานระย้าที่มีขนาดเล็กกว่าความกว้างของส่วนที่แคบที่สุดของตารางนิ้ว
5. ไม่วางตำแหน่งโคมไฟเพดานให้สูงเท่าที่ควร
นักออกแบบตกแต่งภายในมักมองว่าแสงด้านล่างของโคมไฟเพดานระย้าควรอยู่ที่ 30 ถึง 36 นิ้ว ด้านล่างของโคมไฟเพดานระย้าควรอยู่ห่างจากพื้นในห้องรับประทานอาหาร 66 นิ้ว และเมื่อคุณนั่งถัดจากโคมไฟโต๊ะด้านล่างของร่มควรสูงถึงระดับไหล่
6. หลอดไฟที่สว่างมาก ยิ่งกินไฟมาก
“ยิ่งสว่างมาก ยิ่งกินไฟมาก” ความเชื่อที่หลาย ๆ คนได้รับการปลูกฝังมาว่าค่าวัตต์จะส่งผลต่อความสว่าง ในอดีตเป็นเช่นนั้น เพราะหลอดไส้ให้แสงสว่างทันทีที่กดสวิสช์ ราคาถูก ติดตั้งง่าย แต่ก็กินไฟมาก ร้อนเร็ว อายุการใช้งานสั้น ทำให้ปัจจุบันไม่นิยมใช้กันแล้ว และด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาโดยมนุษย์ทำให้เกิดหลอดไฟ LED ที่ให้แสงสว่างได้ดีแต่กินไฟน้อยสุด ๆ มาพร้อมกับความอึด ทน ถึก และหลอดไฟก็ไม่ร้อนอีกด้วยเพราะความร้อนจากหลอดไฟคือเรื่องใหญ่ที่ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น
7. เลือกโคมไฟสีแสงผิด ชีวิตเปลี่ยน
หลายคนมักจะซื้อใคมไฟ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องสีของห้อง ใช้สีเดียวทั้งบ้าน ทั่วทุกห้อง เช่น ห้องที่ต้องใช้ความตื่นตัวในการทำงาน โต๊ะทำงาน ห้องออกกำลังกายกลับใช้แสงสีส้ม ซึ่งสร้างบรรยากาศการพักผ่อน หรือห้องนอนที่ต้องการความสงบกลับใช้แสงสีขาวสว่างจ้ากระตุ้นให้เกิดพลังงาน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อโคมไฟ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟเพดาน โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ ควรพิจารณาถึงสีของแสงที่ส่องห้องด้วย
เป็นอย่างไรบ้าง ละเลยข้อไหนกันบ้าง เอาเป็นว่าเมื่อรู้แล้วก็ลองนำไปปรับใช้กับไฟที่บ้านดู เลือกโคมไฟให้ดีเป็นศรีแก่บ้าน ทั้งโคมไฟเพดาน โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ รับรองว่านอกจากความสว่าง บ้านของคุณจะสวยงามน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกโคมไฟกันนะ