โต๊ะกลางรับแขก เป็นเฟอร์นิเจอร์สุดแมสที่มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะกลางกลม โต๊ะกลางสี่เหลี่ยม โต๊ะกลางไม้ โต๊ะกลางหินอ่อน และ โต๊ะกลางโซฟากระจก ซึ่งแต่ละแบบก็ยังมาในสารพัดดีไซน์สุดละลานตา ทำให้บางครั้งก็ยากจะตัดสินใจได้ว่าโต๊ะกลางแบบไหนที่ใช่สำหรับมุมรับแขกของเรากันแน่ แม้โต๊ะกลางสวยๆ จะมีอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าโต๊ะทุกตัวจะเหมาะกับบ้านทุกหลัง วันนี้เราเลยจะมาพูดถึง 7 ข้อผิดพลาดสุดพังในการเลือก โต๊ะกลางรับแขก ใครที่ไม่อยากเลือกพลาด ควรรีบอ่านด่วนๆ
ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงในการเลือก โต๊ะกลางรับแขก
1. เลือกโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมให้กับห้องขนาดเล็ก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมเป็นรูปทรงที่เรียบง่ายและเข้าได้กับการตกแต่งแทบทุกสไตล์แบบไม่ต้องคิดเยอะ แต่สำหรับห้องที่มีเนื้อที่จำกัด รูปทรงสี่เหลี่ยมอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เนื่องจากโต๊ะที่มีขอบมุมฉากทั้ง 4 ด้านจะทำให้ห้องที่เล็กอยู่แล้วยิ่งดูแออัดคับแคบ รวมถึงยังเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรภายในห้อง ซึ่งหากไม่ระวังเราก็อาจเผลอเดินเตะหรือเฉี่ยวชนได้ง่ายๆ ในทางกลับกัน โต๊ะกลางรูปวงรี โต๊ะกลางกลม แบบซ้อน (nesting table) หรือโต๊ะรูปทรง abstract ที่มีส่วนเว้าโค้ง กลับดูเหมาะกับห้องขนาดเล็กมากกว่า เพราะเส้นโค้งจะช่วยให้พื้นที่มีความลื่นไหลสบายตา มีความยืดหยุ่น ไม่ดูอึดอัด แถมยังสะดวกต่อการเดินไปเดินมาภายในห้องอีกด้วย
2. วางโต๊ะกลางตัวเล็กคู่กับโซฟาขนาดใหญ่
ขนาดของโต๊ะกลางกับโซฟาตัวหลักนั้นควรมีความสมดุลกัน กล่าวคือโต๊ะกลางmควร มีความยาวอย่างน้อยครั้งหนึ่ง แต่ไม่เกิน ⅔ ของความยาวโซฟา อย่างไรก็ตาม หนึ่งในความผิดพลาดที่พบได้บ่อยก็คือการใช้โต๊ะกลางที่มีขนาดย่อมเยาเกินไป มาวางไว้กับโซฟาที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากจะลำบากในการใช้งานแล้ว ยังทำให้ห้องแลดูโล่งเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างด้วย ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือการเลือกโต๊ะกลางให้มีขนาดพอเหมาะกับโซฟาอย่างที่กล่าวไป แต่หากใครมีโต๊ะกลางตัวเล็กอยู่แล้ว และไม่อยากเปลี่ยนใหม่ให้สิ้นเปลือง ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยการวางโต๊ะกลางตัวเล็กเสริมอีกตัว หรืออาจวางไอเทมอื่นๆ อย่างเก้าอี้สตูล หรือหมอนอิงใบใหญ่ไว้คู่กับโต๊ะกลาง เพื่อเติมพื้นที่ว่างให้ดูสมดุลขึ้นก็ได้
3. โต๊ะกลางรับแขก สูงกว่าโซฟามาก
ตามทฤษฎีของการออกแบบภายในแบบมืออาชีพ ความสูงของโต๊ะกลางที่เหมาะสมคือควรใกล้เคียงกับความสูงของเบาะที่นั่งโซฟา โดยอาจสูงหรือต่ำกว่าได้ไม่เกิน 4 นิ้ว จึงจะถือเป็นระดับความสูงที่เพอร์เฟคทั้งในแง่สุนทรียภาพและการใช้งาน แต่หลายครั้งเรามักเห็นการใช้โต๊ะกลางที่สูงกว่าโซฟาขึ้นมามากเกินไป ซึ่งนอกจากจะบดบังทัศนียภาพบริเวณโซฟาแล้ว ยังทำให้ดูเหมือนว่าเป็นโต๊ะทานอาหารมากกว่าโต๊ะรับแขกด้วย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่พื้นที่ห้องค่อนข้างจำกัด สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้เพียงน้อยชิ้น แล้วอาจจำเป็นต้องใช้ โต๊ะกลางรับแขก แทนโต๊ะกินข้าวด้วย ก็อนุโลมให้ใช้โต๊ะกลางที่มีความสูงเพิ่มขึ้นมาจากปกติได้ แต่ก็อาจต้องแลกกับดีไซน์ที่ดูไม่เนียนตาอยู่สักเล็กน้อย
4. ใช้ โต๊ะกลางโซฟากระจก กับบ้านที่มีเด็กเล็ก
ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าเราจะตกหลุมรักดีไซน์ที่โปร่งโล่งและดูทันสมัยของโต๊ะกลางกระจก แต่สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กอยู่ด้วยแล้ว ตัวเลือกนี้อาจต้องลองพิจารณาอย่างรอบคอบอีกรอบหนึ่ง เพราะโต๊ะกระจกนั้นมีโอกาสที่จะแตกร้าวเสียหายได้ค่อนข้างง่าย เมื่อเทียบกับวัสดุอื่น อย่างไม้หรือหินอ่อน โดยเฉพาะเมื่อเด็กๆ วิ่งเล่นซุกซนหรือกระโดดโลดเต้นไปมา ก็อาจไปเฉี่ยวชนหรือกระแทกโดนทำให้โต๊ะกระจกเสียหาย รวมถึงเศษกระจกที่แตกก็อาจทำให้คนในบ้านบาดเจ็บได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากเราชอบโต๊ะกลางที่ทำจากกระจกจริงๆ ก็อาจลองมองหาตัวที่มีแผ่นกระจกหนาทนทาน และมียางหรือวัสดุหุ้มขอบกันกระแทกหนาๆ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่กระจกจะแตกลงได้ส่วนหนึ่ง
5. เลือกโต๊ะกลางไม้กับการใช้งานนอกบ้าน
อย่างที่รู้กันว่าวัสดุไม้นั้นไม่ถูกกับความชื้นและแสงแดดจัด เนื่องจากปัจจัยพวกนี้จะกระตุ้นให้ไม้ผุกร่อน ขึ้นรา เปลี่ยนสี รวมถึงมีโอกาสที่จะถูกแมลงกัดแทะได้ โต๊ะกลางไม้จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่ในการใช้งานแบบ outdoor โดยเฉพาะเมื่อต้องไว้ในพื้นที่นอกชายคา แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้มักให้ความรู้สึกที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง ซึ่งทำให้มี mood & tone ที่เข้ากันได้ดีเป็นพิเศษกับบริเวณสวนที่แสนร่มรื่น ดังนั้น หากเราต้องการโต๊ะกลางที่มีสีและลวดลายไม้สำหรับใช้งานกลางแจ้ง ก็อาจมองหาโต๊ะที่ทำจากไม้สังเคราะห์ ไม้อัดยาง หรือไม้ที่ผ่านการเคลือบกันน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้โต๊ะกลางของเราผุพังเสื่อมสภาพเร็ว
6. ใช้โต๊ะกลางหินอ่อนกับบ้านที่ต้องขนย้ายบ่อยๆ
โต๊ะหินอ่อนนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรงทนทาน ดูหรูหรามีราคา แถมยังมีลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามธรรมชาติ ทำให้เฟอร์นิเจอร์จากหินอ่อนกลายเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนตกหลุมรัก อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยเดียวของวัสดุหินอ่อนก็คือน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคต่อการขนย้าย อีกทั้งการเคลื่อนย้ายไปมาบ่อยๆ ก็เสี่ยงจะทำให้โต๊ะหินอ่อนถูกกระแทกเป็นรอยจนถึงขั้นแตกหักเสียหายได้ ใครที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่า อพาร์ตเมนต์ หอพัก หรือมีแพลนต้องย้ายที่อยู่เรื่อยๆ จึงอาจต้องเลี่ยงไปเลือกโต๊ะกลางที่ทำจากวัสดุอื่นแทน หรือหากชื่นชอบโต๊ะกลางหินอ่อนจริงๆ ก็อาจเลือกดีไซน์ของโต๊ะเป็นแบบ nesting หรือแบบพับได้ ซึ่งสามารถปรับให้มีขนาดเล็กลงได้และสะดวกต่อการขนย้ายมากขึ้น
7. โต๊ะกลาง upholstery แบบที่ถอดซักไม่ได้ ในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
โต๊ะกลางแบบบุเบาะผ้านุ่มนิ่ม หรือที่เรียกว่า upholstery เป็นตัวช่วยที่จะเปลี่ยนบรรยากาศห้องรับแขกของเราให้ดูอบอุ่น น่ารัก และเป็นกันเองยิ่งขึ้น แต่สำหรับใครที่มีสัตว์เลี้ยงสี่ขาหน้าขน อย่างน้องหมาและน้องแมวอยู่ในบ้าน อาจจะต้องระมัดระวังในการเลือกโต๊ะกลางประเภทนี้เป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสมากทีเดียวที่เบาะผ้าของโต๊ะจะเกิดคราบเปรอะเปื้อน กลิ่นอับชื้น หรือมีขนสัตว์ติดเต็มไปหมด ดังนั้น หากเราพลาดไปเลือกโต๊ะที่ไม่สามารถถอดผ้าคลุมออกมาซักได้ ก็จะกลายเป็นความยุ่งยากในการทำความสะอาด ซึ่งอาจทำให้ upholstery ตัวโปรดหมดสวย และกลายเป็นการสร้างบรรยากาศที่ไม่น่าเชื้อเชิญให้แก่ห้องรับแขกไปด้วย
และนี่ก็คือ 7 ข้อผิดพลาดที่ต้องระวังในการเลือก โต๊ะกลางรับแขก พร้อม Tips แก้ไขให้ปังกว่าเดิม ซึ่งก็มีตั้งแต่การหลีกเลี่ยง โต๊ะกลางโซฟากระจก สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก และการเลือกใช้ โต๊ะกลางกลม หรือวงรีแทนโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมสำหรับห้องขนาดเล็ก เชื่อได้ว่าทริคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะช่วยให้การแต่งบ้านของคุณง่ายขึ้นและสนุกขึ้นอย่างแน่นอน